แนวรับ - แนวต้าน และพื้นฐานเทคนิค Rejection

แนวรับ - แนวต้าน และพื้นฐานเทคนิค Rejection


   มาเข้าเรื่องเลยนะครับ บทความนี้ผมจะมาอธิบายถึง การตีแนวรับ - ต้าน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญมากๆในการเข้าออร์เดอร์ด้วยรูปแบบ Rejection (รีเจคชั่น) 

มาทำความเข้าใจคร่าวๆกันก่อน หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแนวรับแนวต้าน คืออะไร ??
Support&Resistance
มันก็คือเส้นที่แสดงถึงการแบ่งเขต หรือกั้นเขตแดน ระหว่างแรงซื้อ(ฝั่งสีเขียว) กับแรงขาย(ฝั่งสีแดง)
ถ้าอธิบายแบบง่ายๆ คือแรงซื้อจะอยู่ข้างใต้กราฟ ส่วนแรงขายจะอยู่ข้างบนของกราฟ 

แนวรับ Support นั้น คือเส้นแนวที่รองกราฟไว้ แสดงว่าแนวรับต้องอยู่ข้างใต้กราฟ คิดตามนะครับ เรากำลังจะรับของจากเพื่อนที่กำลังโยนมาให้เรา คล้ายๆกันครับแนวรับก็จะรอรับกราฟที่วิ่งลงมา 

แนวต้าน Resistance คือเส้นแนวที่ต้านกราฟไว้ ก็แสดงว่าแนวต้านต้องอยู่ด้านบนของกราฟ รอต้านกราฟที่กำลังวิ่งขึ้นมา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้เข้าใจก่อนนะครับว่า ทั้งแนวรับ-แนวต้าน เป็นเพียงแค่แนวที่แบ่งเขต แรงซื้อและแรงขาย แนวรับ-ต้าน ไม่ได้รับ/ต้านกราฟไว้ได้เสมอไป ย้ำนะครับว่าแนวรับ-ต้านมันไม่สามารถรับหรือต้านกราฟได้เสมอไป แสดงว่า มันต้องมีบางจังหวะบางช่วงที่กราฟเอาชนะ ทะลุมันไปได้





จากภาพจะเห็นได้ว่า แนวรับ - ต้าน มันสามารถถูกกราฟทะลุได้ เหมือนที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น แน่นอนว่าในครั้งแรกครั้งที่สองมันอาจจะ รับ/ต้าน กราฟไว้ได้ แต่พอหลายครั้งเข้า กราฟก็มีโอกาสจะผ่าน หรือทะลุมันไปได้ครับ 

มาเริ่มตีแนวกัน

เรามาเข้าสู่การดีแนวรับแนวต้าน แบบพื้นฐานกันเลยนะครับ 
หลักการตีแนวรับแนวต้านที่สำคัญมีดังนี้

1. การตีแนวรับแนวต้าน ต้องตีเส้นทั้งเนื้อเทียนและไส้เทียน (ใครงงเดี๋ยวมีคลิปประกอบ)
2.การเลือกแนว ให้มองหายอดที่เด่น เห็นชัดเห็นได้ง่ายไม่ต้องไปเลือกให้เสียเวลา
2.พยายามมองหาแนวที่มีจุดอ้างอิง จากอดีต(ไม่ต้องไปไกลมาก) หมายถึงเป็นแนวที่มีการยืนยันหรือสัมผัสไปแล้ว 2 - 3 ครั้ง
3.เลือกแนวที่ส่งกราฟไปไกล หรือสามารถทำให้กราฟเปลี่ยนเทรนด์ได้ ตัวอย่าง กราฟวิ่งๆขึ้นมาทำเทรนด์ขาขึ้น จู่ๆไปโดนแนวแล้วกลายเป็นว่ากราฟวิ่งลงไปยาวๆเลย แสดงว่ายอดที่กราฟมันกลับตัวมีแรงขายเยอะ เราสามารถเลือกยอดนั้นตีเป็นแนวต้านได้เลย




การเข้าออร์เดอร์ด้วนเทคนิค Rejection

ถ้าจะอธิบายแบบง่ายๆนะครับ การเข้าออร์เดอร์ด้วยเทคนิค Rejection คือการที่กราฟไปสัมผัสแนวรับ-ต้าน ที่เราตีไว้แล้วเกิดอาการหรือปฏิกริยา เราจะเห็นว่าเมื่อกราฟไปสัมผัสแนวแล้วเกิดการถูกดันกลับจนเกิดเป็นไส้เทียน นั้นคืออาการ Rejection การที่กราฟถูกแรงของอีกฝั่งปฏิเสธ

การเข้าออร์เดอร์แบบ Rejection 

1. ต้องมีแท่งยืนยันแนวเสมอ เหมือนเราไม่เคยไปบ้านหลังนั้นมาก่อน แล้วเราเดินหาห้องน้ำ มีคนหนึ่งเดินออกมาแล้วเราถามเขาว่า ข้างในมีห้องน้ำใช่ไหมครับ เขาตอบว่าใช่ เราก็ไปห้องน้ำถูกใช่ไหมครับ เหมือนกันมันต้องมีคนยืนยัน การรอแท่งยืนยันเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมากต่อการเข้าออร์เดอร์ของเรา

2.แท่งที่เราจะเข้าซื้อต้องเกิดอาการ Rejection ให้เห็นชัดเจน ให้จิตนาการเหมือนเราดันอะไรที่หนักๆ ออกแรงนิดเดียวมันก็ไม่ขยับ ต้องใช้แรงเยอะๆ และชัดเจนให้เหมือนเรากำลังออกแรง ต้องมองให้ออก(ฝึก)

3.การเข้าซื้อในการเทรด แท่ง 1นาที เราจะเข้าซื้อในช่วงเวลาหลัง 00.30 ไปจนถึง 00.00 หากไม่ทันให้เราปล่อยผ่านแล้วรอเวลาตามที่ผมบอกไว้ ซึ่งแท่งเทียนจะขึ้นแท่งใหม่ในเวลา 00.30 ถ้าเราเข้าไม่ทันในช่วงเวลาที่ผมบอกแล้วไปกดเข้าซื้อหลังจากนั้น จะกลายเป็นว่าออร์เดอร์ของเรา จะจบที่2แท่งเทียน จากที่เราเทรด 1นาที ออร์เดอร์ของเราควรจะต้องจบภายใน1แท่งเทียน 


การเข้าออร์เดอร์ แบบ Rejection มีอยู่ 2รูปแบบ 


1.การเข้าออร์เดอร์แบบตามเทรนด์




พอดูรูปแล้วหลายคนอาจเกิดคำถาม แล้วแนวต้านที่เปลี่ยนเป็นแนวรับมันเป็นยังไง คืออะไร??
มันคือการที่แนวถุกทำลาย หรือกราฟวิ่งทะลุ เหมือนที่ผมบอกว่า แนวรับคือแนวที่อยู่ข้างใต้กราฟ แต่เมื่อใดที่กราฟทะลุแนวรับลงไปได้ แนวรับของเราก็จะไปอยู่ข้างบนกราฟแทน เพราะถูกทะลุผ่านลงมาแล้ว จึงทำให้แนวรับนั้นๆ กลายเป็นแนวต้าน ซึ่งจะเป็นแนวต้านที่ใช้ได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กราฟเขาจะบอกเราเอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็น แนวรับเปลี่ยนเป็นแนวต้าน หรือ แนวต้านเปลี่ยนเป็นแนวรับ ก็จะมีทฤษฎีเหมือนกัน


2.การเข้าออร์เดอร์แบบสวนเทรนด์




หลังจากดูภาพและอ่านมาจนถึงจุดนี้แล้ว จะเห็นว่า หลักๆของการเข้าออร์เดอร์แบบ Rejection นั้นจะมีคีย์ สำคัญๆอยู่ 4 ข้อ 
1.รูปแบบ ตามเทรนด์หรือสวนเทรนด์
2.การเลือกและตีแนวรับ - ต้าน (สำคัญที่สุด)
3.แท่งยืนยันแนว 
4.แท่งออร์เดอร์ต้องเกิด Rejection


คลิปตัวอย่างการเข้าออร์เดอร์ แบบ Rejection








        ทุกๆบทความที่ผมได้เขียนไว้ ทุกๆเรื่องสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้อีกเยอะครับ ที่ได้อ่านกันมาถึงจุดนี้เป็นเพียงแค่พื้นฐาน การสร้างความเข้าใจและความรู้เบื้องต้นในบางส่วน ที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาให้ลึกและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ รวมทั้งการมีวินัยในการเทรด และที่สำคัญอีกอย่างคือ Mindset ที่ดีจะช่วยเราไปถึงจุดสูงสุดได้ เราทำได้ ทุกคนทำได้ อยู่ที่ตัวของเราครับว่าเราอยากจะเป็นแบบไหน ฝึกเทคนิคให้ชำนาญ ฝึกใจให้นิ่งควบคุมอารมณ์ให้ได้ 


สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตาม และได้อ่านมาจนถึงบทความนี้ ผมขอฝากคาถาเทรดเดอร์ เอาไว้ท่องและจดจำให้ขึ้นใจนะครับ หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้


ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอย้ำไว้ก่อนนะครับว่า

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนและศึกษาให้เข้าใจก่อนการตัดสินใจนะครับ

*****risk warning your capital might be at risk *****



ฝากอีกช่องทางนะครับ Blog พี่น้อง(ของผมเอง) 
ความรู้ตั้งแต่พื้นฐาน จนถึง การเทรด รวมทั้งวิธีสมัคร
ธนาคารออนไลน์ต่างๆ    >> https://hiaekkapon.blogspot.com/

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น